ประวัติอำเภอสวนผึ้ง
สวนผึ้ง เป็นอำเภอสุดเขตแดนราชบุรีติดสันเขาตะนาวศรี สุดแดนแผ่นดินไทย ทางด้านตะวันตกอีกด้วยเดิมทีนั้น สวนผึ้งขึ้นกับอำเภอจอมบึง ในปี พ.ศ. 2525 ได้แยกตัวและยกฐานะขึ้นมาเป็นอำเภอสวนผึ้ง
ภูมิประเทศ ของสวนผึ้งนั้นขนาบด้วยเทือกเขาตะนาวศรีเป็นพรมแดนตะวันตกมีทั้ง ป่าเขา น้ำตก ธารน้ำภาชี แม้จะตื้นน้ำไหลเชี่ยวแต่ก็เป็นลำธารที่ยาวไกล หล่อเลี้ยงชีวิตคน ต้นไม้ และสัตว์ในที่แห่งนี้ ในแนวป่าลึกชนชายแดนระหว่างไทย กับพม่านั้น มีต้นไม้ใหญ่โตมาก ขนาดสี่คนโอบ ต้นไม้นี้บรรดาหมู่ผึ้ง และมิ้มมาทำรวงรังขนาดใหญ่มากรัง หนึ่งๆ กว้างเป็นเมตร ต้นหนึ่งๆ มีถึงกว่า 200 รังทีเดียว
ชาวบ้านกะเหรี่ยงจะอาศัยการตีรังผึ้ง ซึ่งถือเป็นน้ำหวานของป่าที่ หวานหอมบริสุทธิ์จากดอกไม้ป่า มายังชีพต้นไม้แห่งรังผึ้งนี้ชาวบ้านกะเหรี่ยง เรียกว่า "ไหมซ่าเลียง" ชาวบ้านไทยเรียกว่า "ต้นชวนผึ้งหรือยวนผึ้ง" นี่เป็นที่มาของชื่อ อำเภอสวนผึ้งปัจจุบัน ยังมีน้ำผึ้งหวานหอมบริสุทธิ์แท้ จากป่าวางขายกันอยู่ แม้จะน้อยลงไปอย่างมากแล้วก็ตาม และมาจากแนวป่าเขตพม่าเสียส่วนใหญ่สวนผึ้ง
เริ่มเป็นที่รู้จักของผู้คนเมืองกรุงอีกครั้ง ในยุคเศรษฐกิจเบ่งบานเป็นฟองสบู่อีกครั้งหนึ่งระหว่างปี พ.ศ. 2530 - 2538 ก็เพราะความงามตามธรรมชาติแวดล้อม ไปด้วยป่าเขาทำให้ผู้คนนิยมมาท่องเที่ยวใน ดินแดนแห่งนี้ เกิดการจัดสรรที่ดินมีบ้านพักแบบรีสอร์ท ขึ้นมากมายมีร้านอาหาร การกินขึ้นเป็นดอกเห็ด เรียงรายตามสองข้างถนน นับจากเขตจอมบึงไล่เรื่อยมาจน สุดแดนอำเภอสวนผึ้ง
อ่านต่อ
ภูมิประเทศ ของสวนผึ้งนั้นขนาบด้วยเทือกเขาตะนาวศรีเป็นพรมแดนตะวันตกมีทั้ง ป่าเขา น้ำตก ธารน้ำภาชี แม้จะตื้นน้ำไหลเชี่ยวแต่ก็เป็นลำธารที่ยาวไกล หล่อเลี้ยงชีวิตคน ต้นไม้ และสัตว์ในที่แห่งนี้ ในแนวป่าลึกชนชายแดนระหว่างไทย กับพม่านั้น มีต้นไม้ใหญ่โตมาก ขนาดสี่คนโอบ ต้นไม้นี้บรรดาหมู่ผึ้ง และมิ้มมาทำรวงรังขนาดใหญ่มากรัง หนึ่งๆ กว้างเป็นเมตร ต้นหนึ่งๆ มีถึงกว่า 200 รังทีเดียว
ชาวบ้านกะเหรี่ยงจะอาศัยการตีรังผึ้ง ซึ่งถือเป็นน้ำหวานของป่าที่ หวานหอมบริสุทธิ์จากดอกไม้ป่า มายังชีพต้นไม้แห่งรังผึ้งนี้ชาวบ้านกะเหรี่ยง เรียกว่า "ไหมซ่าเลียง" ชาวบ้านไทยเรียกว่า "ต้นชวนผึ้งหรือยวนผึ้ง" นี่เป็นที่มาของชื่อ อำเภอสวนผึ้งปัจจุบัน ยังมีน้ำผึ้งหวานหอมบริสุทธิ์แท้ จากป่าวางขายกันอยู่ แม้จะน้อยลงไปอย่างมากแล้วก็ตาม และมาจากแนวป่าเขตพม่าเสียส่วนใหญ่สวนผึ้ง
เริ่มเป็นที่รู้จักของผู้คนเมืองกรุงอีกครั้ง ในยุคเศรษฐกิจเบ่งบานเป็นฟองสบู่อีกครั้งหนึ่งระหว่างปี พ.ศ. 2530 - 2538 ก็เพราะความงามตามธรรมชาติแวดล้อม ไปด้วยป่าเขาทำให้ผู้คนนิยมมาท่องเที่ยวใน ดินแดนแห่งนี้ เกิดการจัดสรรที่ดินมีบ้านพักแบบรีสอร์ท ขึ้นมากมายมีร้านอาหาร การกินขึ้นเป็นดอกเห็ด เรียงรายตามสองข้างถนน นับจากเขตจอมบึงไล่เรื่อยมาจน สุดแดนอำเภอสวนผึ้ง
อ่านต่อ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น